Description: Product Description LUANG PHOR KAEW 龙婆乔 1st batch Temple: Wat Phuang Malai Coin first batch : 2459BE / year 1916 Very rare , Nice collection Size : 2.5*3 cm sku53 LUANG PHOR KAEW 龙婆乔Temple: Wat Phuang Malai Luang Phor Kaew was born in the year BE2393 (CE1850) in Samut Songkhram Province. He was the former abbot of What Phuang Malai and is a highly respected guru monk that has deep knowledge in Wicha and was one of the most famous guru monks in Samut Songkhram Province. Over his lifetime, he has consecrated numerous miraculous amulets. Many devotees had experienced Protection against any harm and danger. Nowadays, the amulets of Luang Phor Kaew is regarded as precious and is hard to be seen amongst amulet collectors. One of the famous amulets consecrated by Luang Phor Kaew would be his Takrut Bailan Pitsamorn. The Takrut Bailan Pitsamorn is an amulet that is over a century old and is considered a member of the ‘Gao Yang Tee Kuan Mee Dtid Gaay’ (Nine Sacred amulets which one should wear for perfect blessings) of olden days, which was a famous proverbial saying of devotees of amulets in Thailand in olden times. Takrut Bailan Pitsamorn is also considered one of the top nine Krueang Rang of all time. It is known for its Kong Grapan Chadtri Klaew Klaad and Metta Maha Niyom. Luang Phor Kaew will consecrate his Takrut Bailan by using the Bailan that came from the village of Bang Pern, whose name means ‘Block Guns’ and is part of how he began the empowerment of Maha Ud and Kong Grapan Chadtri within the parchment scrolls before inscription. Luang Phor Kaew would ask his devotees that is willing to go Bang Pern to cut Bailan parchment for Luang Phor Kaew to inscribe but the devotees would ask him this question “ Why do we need to travel to a far place to get the Bailan parchment when there are nearby places that also has Bailan parchment ?” Luang Phor Kaew would reply by saying that if one wants the best of the best, sometimes it is required to travel far and wide to find it but if one does not go to get it then one won’t likely have the chance to have the good thing in life. After collecting the Bailan parchment, Luang Phor Kaew would inscribe the Bailan parchment with a Khom letter “MI” and encircle it with the inscriptions of Khata Hua Jai Suea Saming Were Tiger Invocation (Phū Pi Phū Pa) in sacred Khom Agkhara characters. The Hua Jai Suea Saming is also known as the Hua Jai See Sahaay (four friends heart Mantra). One strange thing would happen as Luang Phor Kaew gathered the materials in his Kuti to inscribe the Takrut, the birds in the forest would make lots of noise chirping and call out. But as soon as Luang Phor Kaew began his inscriptions, they all fell silent. As he finished the last one and closed the ceremony, the birds would begin to resound with loud calls and start singing again. Luang Phor Kaew then declared this to be a confirmation and sign that the spell within the Takrut possessed Maha Ud, to silence (guns and enemies). Takrut Bailan Pitsamorn is especially well-known for Kong Grapan Chadtri but in addition, is also highly regarded for Klaew Klaad and Maha Lap Serm Duang Metta Maha Niyom. This indicated that Luang Phor Kaew knew that the Bailan parchment from Bang Pern had special powers which is not found in all Bailan fields and that the village of Bang Pern did not get its name for no reason as the earth powers within this municipality defeated the powers of gunpowder, through a high presence of gun stopper minerals in the earth. Takrut Bailan Pitsamorn is one of the most ancient forms of Takrut, and is considered to have protection against all forms of danger, including physical harm against sharp objects that pierce the skin (Kong Grapan Chadtri), Anti Ballistic Weaponry (Maha Ud), evade accidents (Klaew Klaad), against poisonous wild animals (Pongan Sadtw Raay), Anti Black Magic (Gae Aathan) and Evil Spirits (Gan Phuudt Phii Pisaj). Luang Phor Kaew passed away in BE2462 (CE1919) at the age of 69, having spent a total of 49 years in monkhood. ประวัติหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม พระเถราจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งเมืองสมุทรสงคราม ประวัติหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พระเถราจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งเมืองสมุทรสงคราม พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีตบะบารมีธรรมแก่กล้า ประวัติหลวงพ่อแก้ว ถือกำเนิดในปีมะแม พ.ศ.2393 พื้นเพเป็นชาว ต.บางแค อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ในวัยเยาว์ ศึกษาวิทยาคมจากบิดา ซึ่งอดีตเป็นทหารวังหน้า มีวิชาแก่กล้าเชี่ยวชาญในพุทธาคม และเป็นคนโปรดของวังหน้า เมื่ออายุมากขึ้น จึงลาออกจากทหารวังหน้า มาอยู่ที่ ต.บางแค อ.อัมพวา ถ่ายทอดพุทธาคมให้กับบุตรชายทั้ง 3 คน บรรพชา เมื่ออายุ 10 ขวบ ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ตรงกับปี พ.ศ.2413 อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดบางแคใหญ่ โดยมีหลวงพ่อเพ็ง วัดบางแคใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า พรหมสโร หลังอุปสมบท ศึกษาพุทธาคมและวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงพ่อเพ็ง วัดบางแคใหญ่ พระอุปัชฌาย์ ที่มีความเชี่ยวชาญและเก่งกล้าในทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน และเรืองพุทธาคม จากนั้น เดินทางไปเมืองเพชรบุรี เพื่อศึกษาเพิ่มเติมด้านพุทธาคมและวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ทั้งยังศึกษาเพิ่มเติมกับพี่ชายของท่านคือ อาจารย์เกต วัดทองนพคุณ และจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ จนพี่ชายของท่านได้เป็นเจ้าอาวาส พร้อมทั้งศึกษาเรียนรู้ด้านวิชาช่างไม้ ช่างปูน จากวัดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จนมีความชำนาญในวิชาช่างแขนงดังกล่าว ด้วยเหตุที่หลวงพ่อแก้ว พำนักจำพรรษาและใช้เวลาศึกษาสรรพศาสตร์ต่างๆ อยู่เมืองเพชรเป็นเวลานาน ทำให้มีคนเข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นชาวเมืองเพชรบุรี กระทั่งปี พ.ศ.2424 วัดช่องลม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ขาดเจ้าอาวาสปกครองดูแลวัด ก่อนที่จะมีประชาชนอาราธนาหลวงพ่อแก้วไปครองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช่องลม จ.สมุทรสงคราม หลังจากนั้น 6 ปี ท่านจึงย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด พวงมาลัย กล่าวสำหรับวัดพวงมาลัย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม สร้างเมื่อปี พ.ศ.2430 โดยสัสดีพ่วง และนางมาลัย จึงตั้งชื่อวัดว่า วัดพวงมาลัย โดยอาราธนาหลวงพ่อแก้ว จากวัดช่องลม มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก ในห้วงที่หลวงพ่อแก้ว ครองวัดพวงมาลัย มีผลงานการพัฒนาหลายประเภท โดยเฉพาะด้านการก่อสร้าง ด้วยท่านมีฝีมือเชิงช่าง ที่ได้ศึกษามาจากเมืองเพชร ศิษย์ของท่านสมัยนั้น หากลาสิกขาบทจะเก่งด้านช่างไม้, ช่างปูน สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ รวมทั้งสร้างเจดีย์แบบมอญที่วัดพวงมาลัย เรียกว่า เจดีย์หงสาวดี หรือเจดีย์หงษา ด้านในมีพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธปฏิมากรอยู่ทั้ง 4 ทิศ ในด้านวัตถุมงคลแล้ว ไม่มีใครในเมืองสมุทรสงครามในยุคนั้นที่จะไม่รู้จักตะกรุดใบลาน หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า "ตะกรุดบังปืน" หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ด้วยอุปเท่ห์ในการสร้างที่ต้องเฉพาะเจาะจงให้ผู้ที่ต้องการตะกรุดไปใช้ ต้องไปตัดใบลานด้วยตัวเองจากต้นลาน ที่ปากคลองบางปืน เท่านั้น (ปัจจุบัน บ้านบางปืน หมู่ 6 ต.นางตะเคียน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม) นอกจากตะกรุดบังปืนที่เลื่องชื่อ ยังมี ผ้ายันต์ ลูกอม หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เป็น พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ เรืองพุทธาคม ชื่อเสียงเกียรติคุณในด้านความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของท่านเป็นที่เล่าขานโด่งดังขนาดที่ว่าเจ้านายหลายพระองค์ในกรุงเทพฯ แวะมาสนทนาธรรมกับท่านถึงเมืองสมุทรสงคราม อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฯลฯ โดยเฉพาะสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุมาศวรเดช ทรงคุ้นเคยกับหลวงพ่อแก้วเป็นพิเศษ โดยได้สร้างตำหนักส่วนพระองค์ชื่อว่า "ญาโณยาน" ไว้ที่ข้างวัดพวงมาลัย 1 หลัง เพื่อเป็นที่พักผ่อน ตำหนักหลังดังกล่าวเป็นหลังเดียวกับที่ สมเด็จกรมพระนครสวรรค์วรพินิต เคยเสด็จมาประทับ แต่ปัจจุบันตำหนักนั้นได้ชำรุดทรุดโทรมลงและถูกรื้อไปในที่สุด เหลือเพียงที่ดินตกทอดแก่ทายาทในตระกูลภาณุพันธ์ ซึ่งทายาทท่านนั้นได้ถวายให้เป็นที่ธรณีสงฆ์วัดพวงมาลัย หลวงพ่อแก้ววัดพวงมาลัย ท่านถึงแก่มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2462 รวมอายุ 69 ปี พรรษา 49
Price: 69 USD
Location: 50240
End Time: 2024-11-30T16:16:04.000Z
Shipping Cost: 0 USD
Product Images
Item Specifics
Return shipping will be paid by: Buyer
All returns accepted: Returns Accepted
Item must be returned within: 30 Days
Refund will be given as: Money Back
Primary Material: Bronze
Type: Amulets Coin
Color: Brown
Original/Reproduction: Antique Original
Region of Origin: Southeast Asia
Age: Post-1940
Maker: LUANG PHOR KAEW